การจัดงานแต่งงานเป็นความฝันของคู่รักทุกเพศ รวมทั้งคู่รัก LGBTQIA+ มากมาย ในประเทศไทยยังไม่ค่อยมี งานแต่งงานชายรักชาย หญิงรักหญิง หรืองานแต่งของคู่รักนอนไบนารี่ให้เห็นมากนัก เนื่องจากหลายคู่อยากให้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมก่อน เพื่อจะได้มั่นใจว่าทั้งตนเองและคู่สมรสจะได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย แต่ก็มีหลายคู่ที่ตัดสินใจจัดงานแต่งงานโดยไม่รอสมรสเท่าเทียม

Wonders & Weddings ได้สัมภาษณ์คุณอุ้มและคุณต๊ะ ชวนมาแชร์ความรู้สึก และประสบการณ์การจัดงานแต่งงานในฐานะคู่รักชายชาย ที่ Renaissance Pattaya Resort & Spa เป็นแรงบันดาลใจและแนวทางให้กับคู่แต่งงานเพศหลากหลาย LGBTQIA+ ที่กำลังวางแผนจัดงาน

รายชื่อทีมงาน

Decorations: Heartmade Studio | Photography: Remind Photography, Pinc 21 | Videography: One Fourth Second | Suits: Pmith, The Armory BKK | Makeup: Puffpoy | Hair Stylist: Torr Monster | Venue: Renaissance Pattaya Resort & Spa

วันที่ตัดสินใจว่าอยากใช้ชีวิตร่วมกัน

คุณอุ้ม: เราคบกันมานานเข้าปีที่ 9 แล้วครับ ความชัดเจนมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้พี่ต๊ะก็เป็นคนดีมาก ๆ ไม่ได้มีความลังเลหรือมีคำถามเลย พี่ต๊ะเป็นคู่ที่ดีของเรา เราเจอปัญหาแล้วเราไม่ได้ทิ้งเราไป ถ้าแต่งงานกันก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นข้างหน้า เราผ่านด้วยกันมาหมดแล้ว ก็รู้ว่าคนนี้แหละเป็นคู่ชีวิตของเราครับ

คุณต๊ะ: คือเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่เราต้องเห็นไปด้วยกันทั้งสองคน สำหรับผมรู้ว่าอุ้มอยากแต่งงานอยู่แล้ว จากที่เห็นว่าเพื่อนแต่งงาน และอยู่ในวัยที่เราพร้อม เราแค่มาถามตัวเองว่าพร้อมไหม เราก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งหรืออะไร เราไม่มีเหตุผลที่จะไม่แต่ง ก็เลยขอเค้าแต่งงาน

ประสบการณ์กับเวนเดอร์ที่ทำงานด้วย

คุณอุ้ม: ทุกงานที่เราติดต่อไปเราจะบอกก่อนเลยนะครับว่าเป็นงานของคู่รักชายชาย เค้ารับจัดไหม เพราะเราก็อยากให้ทำงานด้วยกันอย่างสบายใจ แล้วก็ค่อยคุยรายละเอียด ต่อมาก็คือบริการที่เค้าจะสามารถดูแลทุกอย่างในงานได้ เพราะใครที่ไปงานเราก็อยากให้ได้รับบริการที่ดี อีกอย่างก็คือเข้าใจภาพงานไปกับเราและทำออกมาได้ตามต้องการครับ

คุณต๊ะ: สำหรับผมก็ดูภาพลักษณ์ของคนที่ทำงานด้วยครับ ถ้าเป็นเวนเดอร์ก็คือดูผลงานก่อนว่าชอบไหม ส่วนถ้าเป็นสถานที่ก็ดูจากบริการว่าอะไรซัพพอร์ตเราได้ เวนเดอร์เราทุกคนดีมาก ๆ ไม่มีคำว่าไม่ได้ คุยง่าย และมีความคิดเห็นที่ตอบสนองเราได้ เราแชร์ไอเดียให้ฟังแล้วเข้าใจทันที ไม่ได้มองคนละภาพ

โมเมนท์ประทับใจที่สุดในวันงาน

คุณต๊ะ: มีหลายพาร์ทมากเลยที่เราประทับใจมาก คือทุกคนที่มาเปิดใจมาก ๆ อย่างตอนเช้าเราเชิญยกน้ำชาแค่ประมาณ 11 คู่ คิดว่าเสร็จก็คงผ่านไปแบบเร็ว ๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ ก็มีความในใจบอกกับเราในตอนนั้น คุณพ่อตอนแรกจะไม่มาด้วย เค้าเป็นคนจีนแล้วไม่ได้รับได้ 100% จนถึงอาทิตย์สุดท้ายเค้าก็บอกว่าจะมา แล้วเค้าบอกว่าเค้าจะเสียใจไปตลอดชีวิตเลยถ้าไม่ได้มา มันคือที่สุดแล้วที่ครอบครัวยอมรับเราได้ และคุณแม่เค้าก็สบายใจที่เราจะได้ดูแลกันเมื่อเราป่วยเราเจ็บ ผู้ใหญ่ที่เรานับถือเค้าก็พูดความในใจที่เราประทับใจมาก ๆ ว่าให้เกียรติเค้ามากที่ให้เค้ามาร่วมงาน

คุณอุ้ม: มันเริ่มตั้งแต่ตอนเช้าที่เราตื่นเช้ามาก ๆ เรามาเห็นเพื่อน ๆ เห็นครอบครัวทั้งสองฝ่าย ก็รู้สึกว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีแล้ว ตอนพี่ต๊ะมารับอุ้มไปยกน้ำชา เราคิดว่ามันไม่มีอะไร ตอนนั้นเราขอแค่ให้มีกระจกตั้งไว้ตรงนั้น ไม่ได้มีอะไรตกแต่ง แค่อยากให้มีกระจกสะท้อนท้องฟ้า สะท้อนบรรยากาศ พอพี่ต๊ะมา เรามองกระจกที่ตั้งไว้ มันเป็นโมเมนท์ที่นึกว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง เจออะไรกันมาบ้าง วันนี้เราจะได้เริ่มเป็นคู่ชีวิตกัน

งานแต่งงาน LGBTQIA+ ในประเทศไทย

คุณอุ้ม: ในเมืองไทยยังมีอีกหลายคู่ที่อยากจัดแต่ยังกลัวความคิดคนอื่น อุ้มก็อยากให้มองอีกมุมว่าสุดท้ายคนอื่นเค้าไม่ได้มาใช้ชีวิตกับเรา งานแต่งงานของคู่รัก LGBTQIA+ ที่ผ่านมาไม่มีพื้นที่ให้เค้ามาได้แชร์เลยว่าเรื่องราวเป็นยังไง ทำไมต้องมีงานแต่งเกิดขึ้นมา สื่อไม่นำเสนอเรื่องที่เป็นความรัก แต่เอาประเด็นที่เป็นเรื่องตลกมานำเสนอ

คุณต๊ะ: งานแต่งชายรักชาย เท่าที่เห็นข่าวในเมืองไทย ก็มักจะถูกมองว่าเป็นเชิงไปในเรื่องแปลก หรือตลก มันจะออกในสะเก็ดข่าว ข่าวตลก หรืออะไรแบบนี้ครับ ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องที่ล้อเล่น มันคือความรักของเรา ไม่มีใครอยากให้ความรักของตัวเองออกมาเป็นภาพลักษณ์แบบนั้น

คำแนะนำสำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงาน

คุณอุ้ม: พอเริ่มมีคนมาปรึกษา อุ้มก็จะบอกก่อนเลยว่าอยากให้ทำออกมาแบบสิ่งที่ชอบเลย คือครอบครัวก็มีผลอยู่แล้ว แต่ถ้าทำตามครอบครัวหมดแล้วไม่มีความสุข เราสัมผัสมาแล้วว่างานมันตรงใจเรามีความสุขมาก ๆ เราก็อยากให้ทุกคนได้มีงานแบบนั้น ถ้ามันไม่ได้ 100% ให้คุยกันว่าตรงไหนทำยังไงได้บ้างครับ

คุณต๊ะ: อยากแชร์ด้วยว่างานแต่งงานเป็นงานของคนสองคน ก็ต้องช่วยกันให้มันเกิดขึ้น บางงานมีแค่คนเดียวที่ทำทุกอย่าง อีกคนไม่ได้ตัดสินใจ มันไม่จำเป็นที่ต้องทำทุกอย่างเอง หรือฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่งต้องดูแลค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด มันต้องช่วยกันทำช่วยกันคิด ช่วยกันดูแลในทุกส่วนครับ

การแต่งงานกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม

คุณต๊ะ: อยากให้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมนะครับ เราควรมีสิทธิในการตัดสินใจแทนอีกคน ในขณะที่คู่สมรสของเราไม่มีสติหรือไม่สามารถตัดสินใจได้ เราเป็นคู่สมรสเรารู้ว่าสิ่งไหนที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องรักษาพยาบาล แต่เป็นเรื่องสินทรัพย์ มรดก การซื้อบ้าน ซื้อรถ การทำธุรกรรมต่าง ๆ คนหนึ่งต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนกันและกัน

คุณอุ้ม: ไม่ว่าจะเพศอะไรสุดท้ายก็ใช้หัวใจ ใช้ความรักเหมือนกันครับ ถ้าเราสองคนคุยกันแล้วอยากจัดงานแต่งงาน อยากสร้างอนาคตด้วยกัน การจัดงานแต่งงานเป็นสิ่งทีดีมาก ๆ ครับ สำหรับเราทำให้การใช้ชีวิตดีขึ้น เราสบายใจว่าคนนี้คือคู่ชีวิตของเรา เราสร้างอนาคตด้วยกัน สำหรับการจดทะเบียนสมรส ในอนาคตเราอยากจะมีสินทรัพย์ ทำธุรกิจธุรกรรมด้วยกันได้ เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หรือวันที่เราไม่มีชีวิตอยู่แล้วมีอะไรที่เราอยากให้คู่สมรส ก็อยากให้มีสิทธิ์ครับ

วางแผนจัดงานแต่งงาน LGBTQIA+

Wonders & Weddings เชื่อว่าความรักทุกรูปแบบสวยงามเสมอ และคู่รักทุกเพศมีเรื่องราวความรักที่น่ายินดีเสมอ สำหรับคู่รักที่สนใจวางแผนจัดงานแต่งงาน พร้อมบริการที่เปิดรับและเคารพตัวตนของคุณและคนที่คุณดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาทีมงาน สถานที่ ออกแบบประสบการณ์ในวันพิเศษของคุณ พร้อมเวิร์คช็อปออนไลน์สำหรับทีมงานเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานสำหรับคู่รัก LGBTQIA+

ติดต่อเราเพื่อรับบริการให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรี โดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านล่าง